เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติมีศักยภาพมากในวงการสุขภาพเพราะคุณสมบัติที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับ ตัวบุคคลได้ของมัน การพิมพ์ 3 มิติที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับบุคคลได้จะช่วยลดเวลาในการผ่าตัดและ ค่าใช้จ่ายในการรักษาลงอย่างฮวบฮาบ ในปัจจุบัน..เทคนิคการพิมพ์ 3 มิติถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางที่สุด ในการพิมพ์โครงเลี้ยงเซลล์, กระดูกเทียม (สำหรับการผ่าตัดใส่กระดูกเทียม), และเครื่องมือทางการแพทย์ อย่างเช่น ฟันปลอม หรือเครื่องช่วยฟัง ส่วนตัวพลิกเกมในวงการการพิมพ์ 3 มิติในอนาคตน่าจะเป็นการ พิมพ์เนื้อเยื่อมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ตับ หัวใจ หู มือ ตา หรือการสร้างหน่วยเนื้อเยื่อที่เล็กที่สุดที่สามารถ เติบโตและทำงานได้ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างเนื้อเยื่อหรืออวัยวะขนาดใหญ่ต่อไป สิ่งเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ใน การผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแทนเนื้อเยื่อหรืออวัยวะที่เสียหาย
ทั่วโลกมีผู้ป่วยกว่าล้านคนโดยประมาณที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนไต อย่างไรก็ตาม..มีผู้ที่ได้รับ การผ่าตัดจริงๆ เพียงแค่กว่า 5,000 คนเท่านั้น เนื่องจากจำนวนของผู้บริจาคอวัยวะมีไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ความขาดแคลนอวัยวะที่ผ่านการบริจาคอย่างถูกกฎหมายยังทำให้การลักลอบขายอวัยวะแบบผิดกฎหมาย ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจด้วย ธุรกิจการพิมพ์ 3 มิติเพื่อการแพทย์ถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 6 พันล้านเหรียญภายในปี 2025 บริษัทที่เป็นผู้นำในแวดวงนี้ ได้แก่ Stratasys Ltd., Arcam AB, Organovo Holdings Inc., Johnson & Johnson Services Inc. และ Stryker
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น